แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ อาหารเด็ก แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ อาหารเด็ก แสดงบทความทั้งหมด

 เมื่อมาถึงอาหารสำหรับเด็กที่ผู้ปกครองมักจะคิดว่าอาหารที่ปู่ย่าตายายของพวกเขาทำเพื่อพวกเขาเมื่อพวกเขายังเด็ก ในบรรดาทั้งหมดของอาหารอร่อยเหล่านั้นจะต้องมีน้ำซุปใสมีวุ้นเส้นและหมูสับและหมูสับทอด สูตรของทั้งสองจาน'จะรวมอยู่ในมาตรฐานเมนูสำหรับเด็ก, หนังสือตีพิมพ์โดยมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิตเป็นแนวทางในการโภชนาการและผู้ปกครองของเด็กนักเรียนสาวเช่นกัน Plus, จานผลไม้และขนมที่สามารถเข้ากันได้กับที่ตั้งในรูปแบบเมนูที่มีสารอาหารที่จำเป็นทั้งหมดที่จำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตเด็ก เมนูมันเรียกว่าชุดที่ 1 ประกอบด้วยข้าวสวย, Clear ซุปวุ้นเส้นและหมูสับผัดหมูสับฝรั่งและขนมปังใบเตยคัสตาร์

      
ตั้งค่าเมนูนี้ไม่ยากที่จะทำให้ ความลับอยู่ในเทคนิคการหมักเนื้อหมูและสิ่งนี้นำไปใช้กับอาหารประเภทเนื้อหมูไม่ว่าจะเป็นหมูสับในน้ำซุปใสหรือหมูสับทอด คุณจำเป็นที่จะต้นแบบลับนี้ในการทำอาหารหมูและมันจะทำให้เด็ก ๆ ต้องการเพิ่มอีก สำหรับจานหมูสับ, พ่อแม่สามารถหมักหมูล่วงหน้า ไม่จำเป็นต้องใส่ไข่และแป้งในส่วนผสมยังเป็นคุณเพียงแค่ใส่ไว้ในก่อนนำไปทอดและที่จะทำให้เนื้อหมูรสดีกว่าก็คือ คุณสามารถฟอร์มเป็นลูกหมูสับหรือใช้เครื่องตัดคุกกี้ที่จะทำให้รูปร่างน่าสนใจมากขึ้นเพื่อให้พวกเขาดูเพิ่มเติมเชิญ นอกจากนี้การทำรูปทรงที่น่าสนใจกับหมูสับ, คุณสามารถผสมในวุ้นเส้นนิ่มบางกับที่สับเพื่อให้ชิ้นประมาณ 1 นิ้วยาว จากนั้นทำแบบผสมเป็นลูก เมื่อลูกเหล่านี้ต้มทั้งหมดพวกเขาก็จะมีลักษณะเหมือนเงาะในน้ำซุปที่ชัดเจนและจะเป็นเช่นสิ่งสร้างสรรค์สำหรับเด็กเพื่อดู

      
มีช่วงของเมนูที่แตกต่างกันในแต่ละสัปดาห์จะช่วยให้เด็กได้รับปริมาณที่ดีของอาหารและโภชนาการที่เหมาะสม นอกจากวิธีการนี้จะกระตุ้นให้เด็ก ๆ ในการพัฒนานิสัยที่ดีของการรับประทานอาหารเลือกที่ดีของอาหาร
 
วันนี้สำหรับเคล็ดลับข้อมูลของคุณเป็นเรื่องเกี่ยวกับการทอดอาหาร การทอดอาหารอาจดูเหมือนจะมีน้ำมันจำนวนมากและที่นี้ยังสามารถนำเด็กและผู้ใหญ่ที่จะเป็นไขมัน ยังคงมีไขมันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับร่างกายของเด็ก ปริมาณของไขมันสำหรับเด็กควรจะเกี่ยวกับร้อยละ 30 ของการบริโภคอาหารประจำวันของพวกเขาโดยรวม สำหรับเด็กที่ 1 -- 3 ปีที่พวกเขาควรได้รับไขมันจากพืชน้ำมันและน้ำมันจากสัตว์และนม ผู้ปกครองควรเลือกชนิดของน้ำมันพืชที่ร่างกายมนุษย์ไม่สามารถผลิตเช่นน้ำมันถั่วเหลืองน้ำมันข้าวโพดน้ำมันดอกคำฝอย, และน้ำมันปลา เมื่อร่างกายได้รับน้ำมันไม่เพียงพอในระบบ, ผิวอาจสูญเสียน้ำและใบหน้าและร่างกายจะกลายเป็นแห้ง
 
เมื่อการเตรียมอาหารผู้ปกครองอาจได้รับเด็กที่จะช่วยออกในห้องครัว, เช่นการทำลูกของหมูสับฝรั่งล้างและตักเมล็ดออกของฝรั่งกับช้อน เหล่านี้เป็นงานง่ายที่เด็กสามารถทำได้และที่สามารถส่งเสริมความรับผิดชอบ เป็นในห้องครัวอาจปรากฏเป็นสิ่งที่อันตรายสำหรับเด็กและผู้ปกครองส่วนใหญ่จะห้ามการให้ความช่วยเหลือเด็กจากในครัวเพราะของมีคมและแหล่งความร้อน อย่างไรก็ตามจากมุมมองอื่นภายใต้สายตาที่จับตามองของผู้ปกครองห้องครัวสามารถเป็นสถานที่ของการเรียนรู้สำหรับเด็กโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพ่อแม่สอนเด็ก ๆ วิธีการใช้เครื่องครัว ที่ดีที่สุดคือการเริ่มต้นกับสิ่งที่พื้นฐานและง่ายตัวอย่างเช่นเด็ก ๆ สามารถเรียนรู้วิธีในการจัดเก็บภาชนะและดูแลพวกเขา ไม่เพียงแค่นี้จะช่วยให้เด็กได้รับประสบการณ์มากขึ้น แต่ก็ยังจะช่วยให้เด็กเรียนรู้เกี่ยวกับการมีส่วนร่วมและความรับผิดชอบ คุณอาจมีพ่อครัวคนดังในอนาคตในห้องครัวของคุณเพื่อขอเริ่มต้น
 
วันนี้สำหรับเคล็ดลับข้อมูลของคุณเป็นเรื่องของ"ฝรั่ง" ฝรั่งเต็มไปด้วยวิตามินที่ดีโดยเฉพาะวิตามินซีและมีมันเป็นครั้งที่ 4 ขึ้นกว่าที่ของมะนาว นี้จะทำให้ฝรั่งหนึ่งของผลไม้ที่ดีที่สุดเพื่อช่วยป้องกันการหนาวเย็นและต่ำช้าและเพื่อการส่งเสริมสุขภาพฟันและเหงือก นอกจากนี้อาหารฝรั่งเป็นอาหารที่สมบูรณ์แบบสำหรับระบบการปกครองใด ๆ การสูญเสียน้ำหนักเพราะมีแคลอรี่ต่ำ, มีภาวะโภชนาการที่ดีและสมบูรณ์แบบสำหรับอาหารว่าง นอกจากวิตามินและ C, ฝรั่งยังมีแคลเซียมวิตามิน B1 และ B2,, ฟอสฟอรัสและเพคตินซึ่งเป็นยาระบายอ่อน

 

Read Comments


ซุปข้าวโพดทรงเครื่อง

เครื่องปรุง
1.กระดูกหมูประมาณ 4-5 ชิ้น
2. ข้าวโพดสุกๆ 1 ฝัก
3.  คึ่นฉ่าย 2 - 3  ก้าน
4. แครอท 1/2 หัว

วิธีทำ
1.ต้มกระดูกหมูกับแครอทหั่นเป็นแว่นๆ เคี่ยวจนเกระดูกหมูเปื่อย ส่วนคึ่นฉ่ายนั้น ให้หั่นเป็นท่อนๆ ใส่ตอนกระดูกหมูได้ที่แล้ว (อย่าใส่ก่อนเพราะจะทำให้เละไปและสารอาหารหายไป) จากนั้นเลาะเนื้อออกมาสับหยาบๆ ประมาณ 2-3 ช้อนโต๊ะ
2.ฝานข้าวโพด แล้วค่อยๆขูดๆ เอาแต่เนื้อๆ พยายามอย่าให้มีกากมากนัก
3.หั่นแครอทให้เป็นก้อนสี่เหลี่ยมเล็กๆประมาณ 2 - 3  ช้อนโต๊ะและหั่นคึ่นฉ่ายเป็นชิ้นเล็กๆ ประมาณครึ่งช้อน
4.เมื่อน้ำซุปให้เดือดแล้ว ใส่ข้าวโพดลงไปคนให้สุก แล้วใส่เนื้อลงไปทีหลัง


Read Comments

เมนูวันนี้คือ "ซุปปลาใส่เต้าหู้ไข่ญี่ปุ่น"

1. ขึ้นฉ่าย
2. น้ำมันพืช
3. เต้าหู้ไข่
4. น้ำซุป (จะต้มจากเนื้อปลาให้สุกก่อนแล้วไปผัด หรือกระดูกหมูก็ได้ค่ะ)
5. เนื้อปลา (สามารถใช้เนื้อสัตว์อื่นๆ แทนได้ค่ะ)
6. ขิง
7. กระเทียม


วิธีปรุง "ซุปปลาใส่เต้าหู้ไข่ญี่ปุ่น"
1. ควรตั้งน้ำมันให้ร้อน ผัดกระเทียม + ขิง จนเหลืองหอมเสียก่อน
2. นำเนื้อปลาลงไปผัด(ไม่ควรคนเนื้อปลาเพราะอาจทำให้เละ หรือมีกลิ่นคาวได้) เสร็จแล้วพักไว้
3. ต้มน้ำซุปให้เดือด พอเดือดใส่เต้าหู้อ่อน ต้ม 2-3 นาที
4. เสร็จแล้วควรนำปลาที่ผัดไว้มาใส่ไว้ในซุปเต้าหู้อ่อน โรยด้วยขึ้นฉ่าย
5. จัดแต่งใส่ถ้วยพร้อมเสิร์ฟให้เจ้าตัวน้อยรับประทาน

Read Comments

"ไข่" อาหารสุขภาพเพื่อลูกรัก

วันนี้ขอนำเสนออาหารที่มีอยู่ทั่วไปนั้นก็คือ "ไข่" แหล่งสารอาหารชั้นดี ที่เหมาะกับบุคคลทุกเพศ ทุกวัย และเพื่อสร้างความเข้าใจ ในการดูแลอาหารชนิดนี้ เพื่อสุขภาพที่ดีของลูกรักของท่านได้อย่างถูกต้อง 

"ไข่" มีดีอะไรบ้าง? มาดูกัน...

โปรตีน (Protein)

ไข่ ให้โปรตีนมากที่สุด และย่อยง่ายที่สุดในอาหารธรรมชาติด้วยกัน คือให้โปรตีนถึง 94 เปอร์เซ็นต์  ส่วนในไข่ขาวนั้นจะมีโปรตีนสูงซึ่งเป็นกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกาย (Essential amino acid) เป็นสารอาหารหลักสำหรับการเจริญเติบโตของกล้ามเนื้อ ในส่วนไข่แดงนั้นก็มีสารอาหาร ได้แก่ โปรตีน ไขมัน วิตามินและแร่ธาตุ แหล่งสารอาหารดังกล่าวก็คือตับ เนื้อสัตว์ และไข่แดง

เลซิติน (Lecithin)


      เลซินตินมีประโยชน์อะไรบ้างมาดูกัน
  1. ช่วยในการเสริมสร้างความจำ เลซิตินเป็นสารที่จำเป็นต่อการสร้างโคลีน ซึ่งโคลีนนี้เป็นส่วนประกอบที่สำคัญของสารสื่อประสาท ที่เรียกว่า อะเซทธิลโคลีน (Acethyl Choline) สารสื่อนำประสาทนี้เมื่อเพิ่มขึ้นจะมีผลในการเสริมสร้างความจำและลดอาการหลง ลืมในผู้สูงอายุ นอกจากนี้ยังพบว่าผู้มีระดับโคลีนในร่างกายต่ำจะทำให้เกิดอาการซึมเศร้า จิตใจหดหู่ หลงลืมและไม่มีสมาธิ และโคลีนยังช่วยในการปล่อยฮอร์โมน วาโสเพรสซิน (Vasopressin) ซึ่งจำเป็นต่อการเรียนรู้และความจำ การควบคุมปริมาณของปัสสาวะ และควบคุมความดันโลหิต
  2. ควบคุมระดับโคเลสเตอรอลได้ เลซิตินทำหน้าที่เป็นตัวทำละลายไขมันในเส้นเลือดทำให้ไขมันแตกตัวเป็นอนุภาคเล็ก ๆ และไหลเวียนไปกับกระแสเลือด เลซิตินจึงเป็นสารอาหารที่สามารถป้องกันการจับตัวของไขมันที่ผนังหลอดเลือด อันเป็นสาเหตุทำให้หลอดเลือด หัวใจตีบ หรืออุดตันอันมีผลให้หัวใจวายได้ 
  3. ซ่อมแซมเซลล์ที่สึกหรอ ส่งเสริมการทำงานของเซลล์ให้มีประสิทธิภาพอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะกล้ามเนื้อหัวใจ ตับ ไต และต่อมไร้ท่อ ตลอดจนการไหลเวียนของโลหิตดีขึ้น
  4. ช่วยในการดูดซึมวิตามินบี 1 เพิ่มขึ้นในตับและเพิ่มการดูดซึมวิตามินเอในลำไส้
  5. ป้องกันนิ่วในถุงน้ำดี ซึ่งเกิดจากการตกตะกอนของโคเลสเตอรอล (cholesterol) ในถุงน้ำดี  
ข้อควรปฏิบัติเกี่ยวกับ “ไข่”


- ควรล้างมือทุกครั้งทั้งก่อนและหลังสัมผัสไข่ และไม่ควรบริโภคไข่ที่เปลือกไข่แตกหรือบุบ ร้าว


- ควรเก็บไข่ไว้ในตู้เย็น เพื่อยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์ และควรบริโภคไข่ให้หมดภายใน 2 สัปดาห์หลังจากซื้อ


- ไข่ที่หมดอายุ ไม่ควรนำมากิน วิธีทดสอบคุณแม่อาจทดสอบโดยนำไข่ไปลอยในน้ำ หากไข่จมแสดงว่ายังสด แต่ถ้าลอยหรือมีกลิ่นแสดงว่าไข่เน่าเสีย


ไข่ เป็นอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ยิ่งกับลูกน้อยในช่วงวัยเติบโต คุณแม่ควรให้ลูกกินอาหารที่หลากหลาย ในปริมาณเหมาะสม เช่นเดียวกับอาหารชนิดอื่นๆ โดยครบ 5 หมู่ ก็จะเกิดผลดีต่อร่างกาย สิ่งสำคัญคือ เสริมเสร้างความแข็งแรงให้กับลูกน้อย ด้วยการออกกำลังกายด้วย

สิ่งที่คุณควรรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ “ไข่” ...


- ไข่ขาว มีคุณสมบัติดูดซึมของสารพิษไม่ให้เข้าสู่ร่างกาย ดังนั้น จึงมักจะได้ยินว่า "การกลืนไข่ขาว" สามารถช่วยแก้ไขปัญหาได้
- เพื่อใช้เป็นยาใส่แผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก คนไทยโบราณนิยมใช้น้ำมันมะพร้าว น้ำปูนใส ตีผสมกับไข่แดง เพื่อดับพิษร้อนและช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น ไม่ทำให้เป็นแผลเป็น
- ในจีนเชื่อว่า หากให้เด็กที่เป็นโรคหอบหืดโดยเฉพาะในช่วงหน้าหนาว ช่วงที่ร่างกายมักจะไม่แข็งแรง การกินไข่ดาวราดน้ำผึ้งเป็นประจำจะช่วยให้เด็กแข็งแรงขึ้น และหายจากโรคหอบหืด


บทความนี้คุณแม่คงจะเห็นความสำคัญของ "ไข่" กันแล้วสินะ...

Read Comments

มาบำรุงสมองลูกรักของคุณกันเถอะ...

 

 

 สมองนั้นสำคัญที่สุด โดย เฉพาะกับลูกรักของคุณ ซึ่งปัจจัยสำคัญก็คือ อาหารที่จะช่วยเสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองให้กับลูกรักของคุณ


สมองของทารกมีการพัฒนาตั้งแต่อยู่ในท้องคุณแม่ ซึ่งจะแบ่งจะเซลล์เร็วมากในช่วง 3 เดือนสุดท้ายก่อนคลอด เพราะฉะนั้น คุณแม่จะต้องเริ่มบำรุงตั้งแต่อยู่ในครรภ์และบำรุงต่อเนื่องจนหลังคลอด โดยเฉพาะในช่วง 2 ปีแรกๆ ซึ่งสำคัญมาก เพราะถ้าลูกของเราได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอและเลี้ยงดูอย่างถูกต้องถูกวิธี จะทำให้สมองมีการพัฒนาดีขึ้นอย่างมาก

หัวใจสำคัญของอาหารที่ว่านั้นก็คือ นมแม่ ซึ่งเป็น อาหารที่ดีที่สุดซึ่งจริงๆ แล้วในช่วงเวลา 4-6 เดือนแรก นมแม่เพียงอย่างเดียวก็เพียงพอสหรับลูกรักของคุณแล้วแล้ว ทารกที่กินนมแม่อย่างต่อเนื่องเป็นเวลามากกว่า 2 เดือนขึ้นไปจะมีการพัฒนาการเจริญเติบโตและมีขนาดสมองที่สมวัย มีพัฒนาการในด้านการเรียนรู้ และในด้านเชาวน์ปัญญา การรับรู้ การมองเห็น การใช้กล้ามเนื้อที่แตกต่างจากทารกที่ได้รับนมผสม

นอกเหนือจากนมแม่ที่กล่าวมาแล้ว เราลองมาดูอาหารอื่นๆที่เหมาะสมในแต่ละวัยของลูกรักกันบ้าง


4 เดือน
 ข้าวบดละเอียดใส่ไข่แดงต้มสุก สลับกับตับบด น้ำซุป กล้วยน้ำว้าขูดประมาณ 2 ช้อนชา แล้วค่อยๆ เพิ่มเป็นครึ่งถ้วย

5 เดือน
 เพิ่มเนื้อปลาต้มสุกและผักต้มเปื่อยประมาณครึ่งถ้วย ปลาต้มควรทำให้ยุ่ย อย่าให้มีก้างเหลือ ถ้าเด็กอาจแพ้อาหารทะเลได้ หรือเลือกใช้ปลาน้ำจืดแทนก็ได้

6 เดือน
 เนื้อสัตว์ สับละเอียด รวมทั้งไข่ไก่ และข้าวบดที่หยาบขึ้นเล็กน้อยประมาณ 1 ถ้วย

7 เดือน
 ลูกสามารถเริ่มกินผลไม้ได้บ้างแล้ว เราควรเลือกผลไม้ย่อยง่าย เช่น มะละกอสุก กล้วย หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ เพื่อฝึกให้ลูกเคี้ยว แต่คุณแม่ควรคอยดูแลอย่างใกล้ชิดด้วย

8-9 เดือน
ลูกรักของเราเริ่มมีฟันขึ้น 3-4 ซี่ ตอนนี้สามารถกินอาหารเนื้อหยาบกว่าเดิมได้แล้ว ซึ่งคุณแม่สามารถให้อาหารเสริมได้ 1-2 มื้อ

10-12 เดือน
 อาหารเสริมควรเพิ่มเป็น 3 มื้อ อาหารว่างวันละ 1 มื้อ เพราะหลังจากอายุ 6 เดือน จำนวนมื้อของนมแม่จะลดลง เมื่ออายุ 1 ปี อาหารเสริมจะกลายเป็นอาหารมื้อหลัก 3 มื้อ และนมแม่ วันละ 3-4 มื้อ

1-3 ปี
 เริ่มหัดให้กินข้าวสวยควรจะหุงนิ่ม แต่ไม่ควรปรุงรส และควรจะให้อาหารว่างระหว่างมื้อด้วย เช่น น้ำผลไม้ หรือ เลือกผลไม้ที่ลูกชอบ เช่น มะม่วงสุก ส้ม แอปเปิ้ล ฝรั่ง


 ที่กล่าวมานั้นคือข้อปฏิบัติที่คุณแม่ทุกคนควรจะปฏิบัติให้กับลูกรักของเรา เพราะอาหารเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากต่อการพัฒนาการของลูกน้อยของเราอย่างยิ่ง ควรที่จะเลือกให้เหมาะสมเพื่อให้ลูกได้เติบโตขึ้นมาอย่างมีคุณภาพ

 

Read Comments